เทพไท สุดปลื้ม หลังได้เห็น ชวน หลีกภัย ถูพื้น เพื่อเตรียมศาลพระสยามเทวาธิราช และศาลตายายประจำอาคารรัฐสภา ชี้เป็นตัวอย่างที่ดีกับนักการเมืองรุ่นหลัง นาย เทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ได้โพสต์ภาพของ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร จับไม้กวาดถูพื้น ทำความสะอาดรัฐสภา ด้วยความแปลกใจจึงได้ถามถึงสาเหตุที่นายชวนต้องลงมือจับไม้กวาดเอง และทำให้ทราบว่า เป็นการจัดเตรียมสถานที่เพื่อตั้งศาลพระสยามเทวาธิราช และศาลตายายประจำอาคารรัฐสภา
นายเทพไทระบุ นายชวน ท่านได้มาดูความพร้อมของการจัดเตรียมสถานที่
จึงขอมีส่วนร่วมในการเตรียมสถานที่ในครั้งนี้ด้วย ภาพของนายชวนในการทำความสะอาดพื้นอาคารรัฐสภานับว่าเป็นภาพที่สร้างความประทับใจของผู้คนจำนวนไม่น้อย ที่ได้เห็นภาพของนายชวนที่เป็นนักการเมืองติดดิน สมถะ ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ไม่ถือตัว และเป็นกันเองกับทุกคน นับว่าเป็นนักการเมืองที่เป็นแบบอย่างให้กับนักการเมืองรุ่นหลังได้ ในเรื่องของความซื่อสัตย์สุจริต เชื่อมั่นในระบบรัฐสภา และเคารพกฎหมายของบ้านเมืองอย่างเคร่งครัด
“การที่นายชวน หลีกภัย ได้รับเลือกให้มาเป็นประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติ ทำหน้าที่ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร นับว่าเป็นความโชคดีของการเมืองไทย ที่นายชวนได้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทำให้การทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติเป็นที่ยอมรับของประชาชน ซึ่งนับตั้งแต่วันที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ายึดอำนาจ ทำให้ไม่มีนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเป็นเวลาหลายปี และเมื่อมีสภาชุดใหม่ก็เป็น ส.ส.ชุดใหม่ มีสัดส่วนเป็นคนใหม่มากกว่าคนเก่า มีความหลากหลายในหลายๆ ด้าน”
“ส่วนตัวยอมรับและศรัทธาในแนวทางประชาธิปไตยสุจริตของนายชวนมาโดยตลอด เพราะท่านคือปูชนียบุคคลของพรรค เป็นเสาหลักของบ้านเมือง พวกเราชาวประชาธิปัตย์ได้ตระหนักถึงคำพูดของท่านเสมอว่า วันนี้ชื่อเสียงเกียรติภูมิของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นไปอย่างเดิมอีกแล้ว ดังนั้น ชาวประชาธิปัตย์ทุกคนต้องเร่งกอบกู้ศักดิ์ศรี เกียรติภูมิของพรรคกลับคืนมาให้จงได้”
ถามว่ามีแนวโน้มที่จะยกเลิก Thailand pass ในเร็ววันนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นสิ่งต้องทำทุกอย่างให้เป็นปกติโดยเร็วที่สุด เพียงแต่ต้องเลือกจังหวะเวลาให้เหมาะสม เมื่อไร อย่างไร ก็ต้องพร้อม เมื่อเปิดแล้วมีปัญหาก็ดูแลได้ควบคุมสถานการณ์ได้ ก็จะไม่มีปัญหาในระยะต่อไป
‘โรม’ โต้ เอกสาร ‘ปวีณ’ เป็นของจริง พร้อมงัดหลักฐานยืนยัน
รังสิมันต์ โรม ออกโรงโต้หลังมีกระแสข่าวว่า เอกสาร สนง.นรป.904 ของ ปวีณ เป็นของปลอม ยืนยันเป็นของจริงพร้อมงัดหลักฐานอธิบาย
นาย รังสิมันต์ โรม ส.ส. พรรคก้าวไกล ได้ออกมาโพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก โต้ตอบหลังจากที่มีการมุ่งเน้นว่าเอกสาร สนง.นรป.904 ที่ถูกส่งมาให้ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ เป็นเอกสารปลอม ด้วยเหตุผลที่ว่า ว่า ตัวอักษรย่อของหน่วยงาน “สนง.นรป.904” ที่ปรากฏในเอกสารนั้นเป็นตัวอักษรย่อที่ผิด เนื่องจากตัวอักษรย่อที่ถูกต้องคือ “สง.นรป.” ซึ่งเป็นตัวอักษรย่อของ “สำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ”
โดยนาย รังสิมันต์ ระบุว่า “1. ผมได้รับการยืนยันจากคุณปวีณว่า เอกสารดังกล่าวที่ระบุชื่อหน่วยงาน “สนง.นรป.904” นั้น เป็นเอกสารที่ถูกส่งมาให้กับคุณปวีณจริง
2. เพื่อยืนยันสิ่งนี้ ภาพที่ผมแนบมาด้วยคือเอกสารเดียวกันที่สแกนแบบเต็มหน้า ไม่ตกขอบกระดาษเหมือนฉบับที่เผยแพร่ไปก่อนหน้านี้ จะเห็นได้ที่บริเวณท้ายกระดาษ มีระบุชื่อต้นทางที่ส่งโทรสาร (fax) มาว่า “FROM ROYAL POLICE AMPORN”
3. ผมได้ทราบข้อมูลจากบุคคลผู้มีประสบการณ์ในวงการตำรวจมาอย่างยาวนานด้วยว่าโดยปรกตินายตำรวจที่ถูกแต่งตั้งเข้ามาอยู่ในหน่วยงานจำพวกที่มีตัวอักษรย่อว่า “นรป.” นี้ มักถูกมอบหมายให้ไปประจำการอยู่ ณ เขตพระราชฐานต่างๆ นี่จึงอาจเป็นเหตุผลว่าเพราะเหตุใดเอกสารดังกล่าวที่ถูกส่งมายังคุณปวีณจึงมีเลข “904” ซึ่งอาจเป็นการระบุถึงสถานที่ที่ต้องไปประจำการ หรือบุคคลที่ต้องไปปฏิบัติงานรับใช้ กำกับอยู่ด้วย ทั้งนี้ยังมีข้อที่น่าสงสัยด้วยว่าเอกสารที่ระบุรหัสแบบนี้อาจไม่ได้ถูกส่งมาจากหน่วยงานกลางอย่าง “สำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ” หรือ “สง.นรป.” ที่ผู้กล่าวหาอ้างถึง
4. อันที่จริงผมมีข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อของผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.อ. “ส.” หรือ พล.อ. “จ.” แต่คิดว่าทางฝ่ายผู้ที่กล่าวหาผมคงสามารถหาช่องทางติดต่อพวกเขาเหล่านั้นได้ไม่ยาก ดังนั้นหากยังสงสัยว่าเพราะเหตุใดเอกสารที่ส่งมาจึงพิมพ์ชื่อย่อหน่วยงานว่า “สนง.นรป.904” ไม่ใช่ “สง.นรป.” ก็ขอให้ผู้กล่าวหาไปถามหาสาเหตุกับ พล.อ.อ. “ส.” หรือ พล.อ. “จ.” ด้วยตัวเอง
5. สุดท้ายนี้ เอกสารดังกล่าวเป็นหนึ่งในหลักฐานที่ผมได้รับจากคุณปวีณ เพื่อประกอบกับคำให้การที่ได้ให้ไว้ตามกระบวนการทางกฎหมายของประเทศออสเตรเลีย ที่ได้รับการยอมรับจากทางการออสเตรเลียให้สามารถขอสถานะผู้ลี้ภัยได้ และที่สำคัญคือคุณปวีณยังคงมีความหวังที่จะได้กลับไปใช้ชีวิตที่ประเทศไทยเสมอ ซึ่งหากคุณปวีณได้ปลอมแปลงเอกสารดังกล่าวขึ้นมาแล้ว ก็ย่อมมีแต่จะสร้างอุปสรรคไม่ให้ตัวเองสามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้โดยไม่ต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย เพราะฉะนั้นคุณปวีณจึงไม่มีมูลเหตุจูงใจที่จะต้องปลอมแปลงเอกสารที่มีรายละเอียดมากมายและมีความเชื่อมโยงต่อบรรดาข้าราชบริพารแต่อย่างใดเลย หากนั่นไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นจริง”
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป